ทดลองขับ HONDA FREED E NAVI SPORT

Pic_93983

Hond Freed รุ่นประหยัดสุด ราคา : 894,500 บาท และรุ่นสูงสุด E Navi Sport ราคา : 1,0745,00 บาท

รถยนต์นั่งอเนกประสงค์แบบCompact MPVรุ่นล่าสุดของค่ายHondaมาพร้อมกับความหรูหราและความสดวกสบายกับการใช้งาน ในเมืองของครอบครัวขนาดเล็ก

สนธิสัญญาเขตการค้าเสรีของประเทศในกลุ่ม สมาชิกอาเซียนเริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทำให้สินค้าหลากหลายประเภทซึ่งหมายรวมถึงรถยนต์ที่ประกอบในประเทศกลุ่มอา เซียนแพร่กระจายออกไปยังภูมิภาคนี้ ตลาดรถยนต์ที่มีฐานการผลิตในประเทศไทย ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียมียอดการประกอบรถยนต์ที่สูงขึ้น บริษัทHonda Automobili จึงถือโอกาศนี้นำเข้ารถยนต์อเนกประสงค์ขนาด7ที่นั่งรุ่นล่าสุด Honda Freed ยานยนต์ชนิดCompact MPVที่มียอดขายสูงสุด10อันดับแรกในประเทศญี่ปุ่นซึ่งได้ชื่อว่าเป็นดินแดน แห่งเทคโนโลยีของจักรกลยานยนต์แห่งอนาคต


All New Honda Compact MPV 2010

มัน อาจเป็นCompact MPVที่เปิดตัวได้ไม่แรงมากเท่ากับรุ่นJazz, CivicหรือCRVของค่ายHondacเนื่องจากตลาดกลุ่มรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ที่ไม่ กว้างเท่ากับตลาดรถคอมแพ็คซีดานหรือครอสโอเวอร์และมันมีราคาค่าตัวที่สูงก ว่าCity Car(ไม่มากนัก)แต่มีรูปแบบการใช้สอยที่ครอบคลุมมากกว่า ซึ่งนับได้ว่าค่ายHondaคือเจ้าแรกที่ทำการเปิดผ้าคลุมรถยนต์ประเภทนี้ รถHonda Freedวางเป้าหมายของลูกค้าไว้ที่ครอบครัวขนาดเล็กที่มีรายได้ปานกลางและใช้ ชีวิตท่ามกลางเมืองขนาดใหญ่ซึ่งมักใช้เวลาส่วนมากในวันหยุดพักผ่อนขับรถพา ครอบครัวเล็กๆออกเดินทางท่องเที่ยวอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาเพื่อสร้างความ อบอุ่นและความสัมพันธ์ภายในครอบครัว หรือคนโสดสนิทที่ชอบพาพรรคพวกเพื่อนฝูงเฮโลสาระพาไปไหนต่อไหนบ่อยๆ หรือเป็นพวกบ้าขนของใส่รถ มีของจุกจิกส่วนตัวที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันเยอะกว่าคนทั่วไปและต้องเอาของ ติดตัวไปด้วยยามเดินทางเช่นกระเป๋าใบโต โน็คบุ๊ค ลังหนังสือ กล่องรองเท้า ถุงกอล์ฟ เสื้อผ้าจำนวนมากหรือแม้แต่รถจักรยานแบบเมาเท่นไบค์(ต้องถอดล้อและพับเบาะ หลัง) รถHonda Freedสามารถตอบโจทย์ความต้องการของคนเมืองกลุ่มนี้ได้อย่างสบาย


Body And Design

รถHonda Freedถูกดีไซน์โดยใช้แนวคิดของรูปทรงแบบ4เหลี่ยมผสม3เหลี่ยม รูป3เหลี่ยมนั้นถูกแทนความหมายถึงสิ่งที่พุ่งไปข้างหน้าอย่างโฉบเฉี่ยวแต่ กล่อง4เหลี่ยมด้านหลังนั้นสื่อถึงความอเนกประสงค์ของการใช้พื้นที่ภายในห้อง โดยสาร เมื่อ3เหลี่ยมมุมฉากมาประกบกับรูปทรง4เหลี่ยมจะทำให้เกิดรถMPVทรงกล่อง แบบ1Box And Half ซึ่งก็คือFreedนั่นเองโดยการใช้แนวตั้งฉากของกระจกข้างและกระจกบานหลังเพื่อ ทำให้ตัวรถดูมีมิติที่ใหญ่โตกว่าความเป็นจริงเล็กน้อย ไฟหน้าและกระจังหน้าถูกออกแบบให้มีรูปทรงที่แตกต่างจากรถซีดานของค่ายเพื่อ เอกลักษณ์และความสวยงามลงตัวของรถยนต์ยุคใหม่สไตล์Compact MPV ไฟหน้าทรงเฉี่ยวกับไฟหรี่และไฟเลี้ยวอยู่ในกรอบโพลิเมอร์ใสแบบรถยนต์ยุคใหม่ ทั่วๆไปที่นิยมใช้กรอบไฟชนิดนี้เนื่องจากน้ำหนักเบา ฝากระโปรงหน้าและกระจกหน้าลาดเอียงในองศาที่ใกล้เคียงกันทำให้มุมมองด้าน ข้างของตัวรถมีความโดดเด่นเพิ่มขึ้น แต่ถ้ามองจากด้านหน้าตรงๆจะคล้ายกับรถเล็กแบบCity Car ทั่วไปจนเมื่อเข้าไปอยู่ภายในห้องโดยสารแล้วถึงจะเห็นว่ามันมีความโปร่งสบาย กว่ากันมากเนื่องจากความสูงของหลังคาและรูปแบบของการจัดวางอุปกรณ์ เนื่องจากค่ายHondaมีความเชี่ยวชาญในการออกแบบรถMPVอย่างรุ่นStepWagon, OdysseyและElysionมานานกว่า15ปีแล้ว


Side Look

รูปลักษณ์ด้านข้าง ของHonda Freedใช้เส้นแนวนำสายตาจากจากมุมล่างของบังโคลนหน้าลากยาวผ่านประตูทั้งสอง บานไปจนจรดไฟท้ายซึ่งออกแบบได้อย่างกลมกลืน แนวเส้นตัวถังด้านข้างออกแบบให้มีความโค้งมน คม และเด่นชัด เมื่อกระทบกับแสงจะเกิดมุมมองที่สร้างมิติให้กับพื้นผิวทำให้ตัวรถมีความคม ชัดสวยงามกว่าการทำพื้นผิวตัวรถด้านข้างแบบเรียบๆ กระจกมองข้างมีหลอดไฟเลี้ยวฝังอยู่เพื่อประโยชน์ใช้สอยและความปลอดภัย ระยะห่างของฐานล้อที่ยาวถึง2740มิลลิเมตรเมื่อบวกกับความยาวของตัวรถที่ 4215มิลลิเมตรและความสูงน้องๆรถโฟร์วิลไดฟ์ทำให้มุมมองในทุกมิติของHonda Freedมีความใหญ่โตกว่าCompact Carทั่วไป ด้านท้ายของตัวรถใช้กระจกประตูฝาท้ายบานใหญ่ติดตั้งใบปัดน้ำฝนมาให้ใช้งาน ประตูท้ายหรือฝาท้ายสามารถเปิดขึ้นในมุมสูงสุดทำให้การบรรทุกสัมภาระหรือกาง เบาะนั่งแถวที่3เป็นไปด้วยความสะดวกไม่ต้องก้มๆเงยๆอีกต่อไป ฝาท้ายใส่ถุงกอล์ฟใบใหญ่ขนาดมาตรฐานได้ถึง3ใบในแนวตั้ง มุมมองจากทางด้านหลังมีไฟท้ายทรงสามลอนที่ให้ความสว่างคมชัดพอเพียงทั้งไฟ เบรค ไฟเลี้ยวหรือไฟท้ายปกติที่เิปิดใช้งานยามขับรถตอนกลางคืน เหนือแผ่นป้ายทะเบียนหลังเป็นขอบโครมเมี่ยมที่มีตำแหน่งของการเปิดฝา ท้ายอยู่เฉียงไปทางด้านซ้ายมือเล็กน้อยเนื่องจากการออกแบบ ประตูฝาท้ายรวมถึงกระจกบานหลังกินพื้นที่ส่วนใหญ่แทบทั้งหมดของท้ายรถซึ่ง เกิืดจากการดีไซน์เพื่อประโยชน์ใช้สอยยามต้องบรรทุกกันแบบเต็มพิกัดนั่นเอง


Cockpit Interior

การออกแบบ ภายในของรถยนต์จากบริษัท Hondaในยุคนี้มีการจัดวางรูปแบบของอุปกรณ์ที่เรียบง่ายแต่มีความทันสมัยล้ำ อนาคตด้วยการดีไซน์แด็ชบอร์ด ปุ่มสวิชท์ต่างๆรวมถึงการใช้โทนสีของแสงไฟภายในตัวอุปกรณ์นั้นๆมานำเสนอได้ อย่างลงตัว จุดเด่นภายในห้องโดยสารของHonda Freedอยู่ที่แด็ชบอร์ดทรงสองชั้นที่คล้ายกับเคาน์เตอร์บาร์ที่มีบรรยากาศ สบายๆ แด็ชบอร์ดสองชั้นถูกขั้นกลางด้วยเส้นอลูมิเนียมเพื่อแบ่งโซนออกเป็นสองส่วน เพื่อทำให้ตัวคอนโซนดูลึกและมีมิติมากขึ้น แด็ซบอร์ดชั้นบนเป็นที่อยู่ของมาตรวัดแบบดิจิตอล จอมัลติฟังชั่นของเครื่องเสียง,จอของกล้องด้านหลังช่วยจอดและระบบนำร่องด้วย ดาวเทียมรวมถึงช่องแอร์ทรงเหลี่ยมทั้งสี่ช่อง ตรงหน้าตำแหน่งที่นั่งของผู้โดยสารด้านหน้ามีแอร์แบ็คซ่อนอยู่ด้านในซึ่งทำ ออกมาเรียบร้อยจนแทบสังเกตไม่เห็น แด็ซบอร์ดต่ำลงมาใช้พลาสติกสีเทาเงินมีหลุมทรงกลมเพื่อวางแก้วน้ำ ตำแหน่งตรงกึ่งกลางเป็นชุดควบคุมอุณหภูมิที่อยู่ติดกับคันเกียร์ออโต้5สปีด ชุดแอร์ดังกล่าวบอกตัวเลขและโหมดการใช้แบบดิจิตอลที่ใช้งานได้ง่ายและคล้าย กับรถยนต์ในรุ่นต่างๆของค่ายHonda วงพวงมาลัยสามก้านมีปุ่มแอร์แบ็คทรงกลมเป็นพวงมาลัยแบบเรียบๆจับกระชับมือ โดยไม่มีสวิชท์มัลติฟังชั่น แผงควบคุมอุณหภูมิแบบแผ่นดูแปลกตากว่ารถทั่วไปเนื่องจากมันอยู่ใกล้กับคัน เกียร์


Cockpit Interior

คอนโซล กลางกลายเป็นพิ้นที่ว่างเล็กๆที่ออกแบบมาให้เดินได้ถึงกันตลอดทั่วทั้งคัน ตั้งแต่เบาะหน้าจนถึงท้ายรถ พื้นที่เหนือศีรษะของผู้โดยสารมีมากจนคล้ายกับรถMPVคันโตซึ่งเป็นจุดเด่น ของHonda Freedทำให้รู้สึกโล่งโปร่งสบาย ประตูสไลล์แบบมอเตอร์ไฟฟ้าทั้งสองข้างมีกลไกในการป้องกันการหนีบและจะสไลล์ กลับทันทีที่มีวัตถุกีดขวาง ช่วยสร้างความปลอดภัยสำหรับเด็กเล็กๆที่ร่วมเดินทาง สวิชท์ควบคุมการเปิดปิดของประตูไฟฟ้ายังอยู่ในตำแหน่งคนขับช่วยเพิ่มความ สะดวกในการเปิด-ปิดหรือล็อคประตูทั้งคันในทุกตำแหน่งทันทีโดยอัตโนมัติเมื่อ ตัวรถเริ่มเคลื่อนที่ เบาะผู้โดยสารตอนท้ายสามารถพับหรือกางออก เหมาะกับผู้ใหญ่ตัวโตสองคนหรือเด็กตัวเล็กสามคนได้อย่างสบายๆ เมื่อพับเบาะตอนหลังขึ้นจะทำให้มีพื้นที่สำหรับสัมภาระในการเดินทาง เบาะนั่งทั้ง6ตำแหน่งใช้เบาะผ้าที่ระบายความร้อนได้ดีแทนการใช้เบาะหนัง ฝาท้ายเปิดออกได้กว้างพอจะขนข้าวของโดยไม่ติดขัด ตำแหน่งการขับขี่มีทัศนวิสัยรอบคันที่ดีเยี่ยมเนื่องจากใช้กระจกบานใหญ่ใน ทุกตำแหน่งรวมถึงความสูงของเบาะทำให้มุมมองในการขับขี่หรือโดยสารเหนือกว่า รถซีดานทั่วไป


Engine And Suspension

Honda Freedใช้เครื่องยนต์L15A 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว 1,497 ซีซี วางตามขวางด้านหน้าและขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หน้า กระบอกสูบ x ช่วงชัก 73.0 x 89.4 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.4:1 จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด PGM-FI พร้อมระบบวาว์ลแปรผัน i-VTEC ใช้หัวเทียนแบบPlatinum เป็นเครื่องยนต์ที่พบเห็นได้ทั่วไปในรถHond JazzและNew City แต่มีการปรับปรุงกลไกและกล่องควบคุมเครื่องยนต์ให้มีแรงบิดดีขึ้นกว่าเดิม เล็กน้อย ผลิตกำลังสูงสุด118 แรงม้า (PS) ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด14.9 กก.-ม. ที่ 4,800 รอบ/นาที เครื่องยนต์ตัวนี้มีระบบกำจัดมลพิษจากไอเสีย Catalytic Converter 2ตำแหน่งมาช่วยเผาไหม้ไอเสียเพื่อลดปริมาณของก๊าซคาร์บอนมอนน็อคไซค์เมื่อ ถูกปล่อยสู่บรรยากาศภายนอก และมีติดตั้งอยู่ในรถHondaรุ่นใหม่ทุกคัน ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ5สปีด ควบคุมด้วยระบบเปลี่ยนเกียร์อิเล็กทรอนิกส์Grade Logic Controlพร้อมด้วยระบบDirect ControlและShift Hold Control ซึ่งก็เป็นเกียร์ที่ใช้ร่วมกันกับHonda Jazz และNew Cityแต่มีการปรับเปลี่ยนอัตราทดเพื่อให้มีความเหมาะสมกับการใช้งานของFreed ระบบบังคับเลี้ยวของมันใ้ช้พวงมาลัยแร็คแอนด์พีเนียนพร้อมเพาเวอร์ไฟฟ้าEPS (Electric Power Steering) ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัตมีการปรับเพิ่มมุม Castorให้เอียงมากขึ้นโดยให้ล้อหน้ายื่นไปด้านหน้ารถเพื่อเพิ่มสมถรรนะในการ ยึดเกาะ ส่วนด้านหลังแบบทอร์ชันบีม เทรลลิงอาร์มสโดยใช้การติดตั้ง ช็อกอัพ กับสปริง แยกส่วนออกจากกัน วิศวกรของHondaย้ายตำแหน่งของสปริงให้อยู่ใกล้กับจุดศูนย์กลางของล้อคู่หลัง ให้มากที่สุดเพื่อความสมดุลย์ ระบบเบรกแบบหน้าดิสก์-หลังดรัม พร้อมเซนเซอร์ป้องกันล้อล็อกABSและระบบกระจายแรงเบรกEBD


Performance

ผมรับรถHonda Freedจากคุณต้าเจ้าหน้าที่ที่ดูและเรื่องรถยนต์Test DriveของHonda Automobili เมื่อบ่ายวันศุกร์ที่2กรกฎาคม เช้าวันเสาร์จึงนำเจ้าFreedออกเดินทางจากกรุงเทพฯมุ่งสู่ปราจีนบุรี โดยใช้เส้นทางขาออก สุวินทวงค์-ฉะเชิงเทรา-พนมสารคาม-ปราจีนบุรี ตลอดเส้นทางมีรถมากพอสมควรสลับกับถนนโล่งๆเมื่อวิ่งเข้าไปในเขตอำเภอบ้าน สร้างและศรีมหาโพธิ์จึงได้เห็นสมถรรนะที่แท้จริงของรถHonda Freed การบังคับควบคุมคล้ายกับรถเล็กคันหนึ่ง พวงมาลัยไฟฟ้าสื่อสารกับผู้ขับได้ไม่ดีเท่ากับJazzเนื่องจากรูปแบบของตัวรถ ซึ่งมีความสูงมากกว่า แต่การขับขี่ภายในห้องโดยสารที่โปร่งโล่งสบายทำให้ได้ความรู้สึกที่ดีกว่า มาก การทรงตัวของมันที่ย่านความเร็วเดินทางประมาณ120กิโลเมตรต่อชั่วโมงเป็นไป ด้วยความราบเรียบด้วยช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัททำให้ตัวรถวิ่ง ได้อย่างมั่นคงแม้จะเจอถนนที่เป็นลอน การเร่งแซงหรือคิกดาว์นกับน้ำหนักของผู้โดยสารทั้ง6ที่นั่งต้องกะระยะกันพอ สมควรเนื่องจากเป็นเครื่องยนต์ขนาดเล็กแค่1.5ลิตรแต่ก็แลกเปลี่ยนด้วยอัตรา การสิ้นเปลืงเชื้อเพลิงที่ประหยัดมากกว่ารถMPVจากค่ายอื่น ระบบเบรคมีสมถรรนะที่ดีเกินตัวแม้ล้อคู่หลังจะเป็นแบบดรัมเบรคก็ตามซึ่งให้ ความมั่นใจได้ในระดับที่ดี เสียงที่ดังลอดเข้ามาให้พอได้ยินเมื่อใช้ความเร็วกว่า130กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีแค่เสียงของยางDunlopขอบ15นิ้วเท่านั้น ความเร็วที่เหมาะสมกับรถยนต์สไตล์นี้ไม่ควรเกินกว่านั้นเนื่องจากความสูงของ ตัวรถที่มากกว่าพวกซีดานคันเล็กและการบังคับเลี้ยวในทางโค้งแคบๆด้วยความ เร็วสูงซึ่งอาจไม่ปลอดภัยและไม่ไช่วิธีที่ถูกต้องในการขับขี่รถยนต์ แบบCompact MPV ระบบส่งกำลังอัตโนมัติ5สปีดควบคุมด้วยระบบเปลี่ยนเกียร์อิเล็กทรอนิกส์Grade Logic Controlพร้อมด้วยระบบDirect ControlและShift Hold Control ซึ่งก็เป็นเกียร์ที่ใช้ร่วมกันกับHonda Jazz และNew Cityตัดต่อเกียร์ขึ้นลงได้อย่างไร้อาการกระตุกกระชากแม้คันทดสอบจะผ่านการ วิ่งมากว่า 13,000กิโลเมตรแล้วก็ตาม เมื่อขับใช้งานตอนกลางคืนบนทางหลวงจังหวัดยังมีไฟตัดหมอกที่ช่วยในการเพิ่ม มุมมองตอนมีฝนตกพร้อมใบปัดน้ำฝนขนาดมโหฬารน้องๆรถบรรทุกที่ด้่านหน้าเนื่อง จากความกว้างของกระจก ด้านหลังก็ยังมีใบปัดน้ำฝนเล็กๆติดตั้งมาให้เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยด้านท้ายรถ เมื่อเจอกับสภาพอากาศไม่ดี การใช้งานของอุปกรณ์ภายในเช่นมาตรวัดเรืองแสงแบบดิจิตอลที่สามารถอ่านค่า ต่างๆได้อย่างชัดเจน ปุ่มควบคุมอุณหภูมิภายในห้องโดยสารออกแบบให้ใ้ช้งานได้ง่ายขึ้นและการโยกคัน เกียร์เพื่อเปลี่ยนตำแหน่งจาก PไปRหรือDก็สะดวกง่ายดายเหมือนรถเล็กทั่วไป จุดเด่นอีกอย่างของ Freedคือกล้องหลังช่วยจอดที่มีสัญลักษณ์ในการกะระยะของพื้นที่ว่างท้ายรถให้ เห็นกันแบบจะๆไม่ต้องใช้คนโบกช่วยถอยอีกต่อไปซึ่งทำงานร่วมกันกับจอของระบบ เครื่องเสียงCD,DVD,MP3,วิทยุAM-FM,ระบบนำร่องด้วยดาวเทียมพร้อมช่องต่อ อุปกรณ์ภายนอกอย่างIpot


Honda Freed

Honda Freedเป็นรถที่เหมาะจะพาครอบครัวเดินทางไปในเมืองหรือท่องเที่ยวต่างจังหวัด แบบขับกินลมชมวิวไม่รีบร้อนเรื่อยๆ สบายๆด้วยห้องโดยสารที่โอ่โถงกว้างขวาง เด็กตัวเล็กๆหรือผู้ใหญ่ที่ไม่อ้วนมากนักสามารถเดินจากเบาะตอนหน้าถึงหลังรถ ได้อย่างสบายจากการออกแบบของห้องโดยสาร ด้วยเชื้อเพลิง1ถังHonda Freedสามารถเดินทางไกลไปได้ถึง450-500 กิโลเมตร แต่การขับขี่ใช้งานในเมืองจะมีอัตราการสิ้นเปลืองสูงกว่าซึ่งก็ไม่มากจนแตก ต่างเนื่องจากขนาดที่เล็กของเครื่องยนต์L15A 4 สูบ 118แรงม้าที่พอเพียงต่อการใช้งานแถมยังประหยัดค่าน้ำมันเชื้อเพลิงที่แพง ขึ้นทุกเดืือนรวมถึงค่าดูแลรักษามากกว่าพวกเครื่อง 2.0ลิตรอีกด้วย

Hond Freed รุ่นประหยัดสุด ราคา : 894,500 บาท และรุ่นสูงสุด E Navi Sport ราคา : 1,0745,00 บาท


ขอบคุณบริษัทHonda Automobili
arcom roumsuwan
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th

0 ความคิดเห็น: